ภาพรวมสถานการณ์วันที่ 28 กรกฎาคม
ความขัดแย้งตามชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาเข้มข้นขึ้นในวันที่เข้าสู่วันที่ห้า ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 35 ราย และผู้พลัดถิ่นกว่า 260,000 คน ทั้งสองฝ่ายได้เรียกทูตกลับประเทศ และไทยปิดด่านข้ามแดนเกือบทั้งหมด ยกเว้นแรงงานข้ามชาติ
การเจรจาต่อรองในมาเลเซีย
ทั้ง นายกรัฐมนตรีกัมพูชา Hun Manet และ นายกฯ รักษาการประเทศไทย Phumtham Wechayachai เข้าร่วมการเจรจาสงบศึกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย Anwar Ibrahim ทำหน้าที่ประธานร่วมในนาม ASEAN และมีสหรัฐฯ และจีนในฐานะผู้สังเกตการณ์และสนับสนุน
เหตุแห่งความตึงเครียด
ความขัดแย้งเกิดจากการระเบิดกับระเบิดในพื้นที่ชายแดนบริเวณวัดปราสาทตาเมือนธม และมีการแลกเปลี่ยนการโจมตีด้วยอาวุธหนักและอากาศยาน รวมถึงการเข้ายึดและทำลายโครงสร้างเช่นบันไดและกระเช้าลอยของฝ่ายกัมพูชาบนดอยภูมะกั่ว ซึ่งไทยได้ทวงคืนและทำลายโครงสร้างเหล่านั้นแล้ว
มาตรการระหว่างประเทศและข้อเสนอ
สหรัฐฯ โดยผู้นำ Donald Trump ให้สัญญาว่าจะระงับข้อตกลงการค้าหรือเรียกเก็บภาษีสูง (36%) จนกว่าจะมีการยุติสงคราม และกระตุ้นให้ ASEAN ทำหน้าที่เป็นศูนย์ประสาน
ผลกระทบต่อประชาชนและเศรษฐกิจ
นอกจากการพลัดถิ่นและชีวิตที่สูญเสียแล้ว ภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจริมชายแดนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง โดยจังหวัดเช่นสระแก้ว สุรินทร์ อุบลราชธานี การค้าประจำวัน โครงสร้างเศรษฐกิจท้องถิ่นถูกรบกวน การฟื้นฟูจำเป็นต้องมีมาตรการระยะยาว
发表回复